บทคัดย่อภาษาไทย

                           วิทยานิพนธ์เรื่อง  “ศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนากับการบำบัดเยียวยารักษาโรค” นี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ  เพื่อศึกษาวิปัสสนาภาวนาในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท  และเพื่อศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนากับการบำบัดเยียวยารักษาโรค  โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท  ข้อมูลจากพระไตรปิฎก  อรรถกถา  ฎีกา  และคัมภีร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง  เรียบเรียงตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

                           ผลการวิจัยพบว่า  การปฏิบัติวิปัสสนาภาวนามีการปฏิบัติ 2 แบบ คือ  สมถยานิกะ ได้แก่  การปฏิบัติโดยอาศัยสมาธิในกรรมฐาน 40 จนเกิดองค์ฌาน  แล้วยกจิตออกจากองค์ฌาน พิจารณาองค์ฌานโดยความเป็นพระไตรลักษณ์  วิปัสสนายานิกะ คือ  การปฏิบัติวิปัสสนาล้วนๆ โดยอาศัยอารมณ์ของวิปัสสนาได้แก่ ขันธ์ 5  อายตนะ 12  ธาตุ 18  อินทรีย์ 22  ปฏิจจสมุปบาท 12 อริยสัจ 4  โดยย่อสงเคราะห์เข้าใน รูป และนาม  การปฏิบัติวิปัสสนายานิกะเป็นการปฏิบัติให้รู้แจ้งในรูป  นาม  โดยความเป็นพระไตรลักษณ์

      โรค  หมายถึง  สภาวะที่ผิดปกติของร่างกายหรือจิตใจ  ซึ่งทำให้เกิดความไม่สบาย  โรคในทางพระพุทธศาสนาเกิดจาก  กรรม  จิต  อุตุ  อาหาร  โรคบางอย่างที่เกิดจากกรรมสามารถชะลอการส่งผลได้ด้วยการบำเพ็ญกุศลโดยการให้ทาน  รักษาศีล  และการปฏิบัติวิปัสสนา  พระพุทธองค์ตรัสเกี่ยวกับโรคว่ามี 2 ชนิด คือ  โรคทางกายสามารถบำบัดได้ด้วยการเยียวยาตามอาการของโรค โรคทางใจ หมายถึง  โรคที่ทำให้เกิดความเร่าร้อนทางใจ รักษาได้ด้วยการให้ทาน  รักษาศีล  และเจริญภาวนา

                       จากการศึกษาวิปัสสนาภาวนาแบบสมถยานิกะ  จนสามารถเกิดองค์ฌาน  คือ  วิตก  วิจาร  ปีติ  สุข  เอกัคคตา  เมื่อทำฌานให้เกิดแล้ว ด้วยอำนาจของสมาธิสามารถระงับความเจ็บปวดที่ขึ้นเกิดทางกายได้ ดังเช่นกรณีของพระสารีบุตร  และพระอริยสาวกในขณะกำลังเข้าฌานสมาบัติภัยอันตรายต่างๆ  ไม่สามารถทำร้ายท่านได้

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

              This thesis is of 2 objectives, the study of the practice of vipassanā to cure the disease, to study Vipassanā Bhavanā in Buddhist Theravāda scripture and to study the practice vipassanā and to cure the disease by studying the data from the Tipitaka, Atthakatha, Tika, and different and connected documents, which are composed, explained, checked by expert teachers.

               From the study, it is found that the practice of vipassanā has two kinds are Samatayānikā is to practice by to being based on Samadhi in 40 Meditations until getting the meditation and raising the mind from meditation in Three Characteristics, Vipassanāyānikā is the person who practice vipassanā only with the help of 5 Aggregates, 12 Doors, 18 Elements, 22 Organs, 12 Origination Dependents, 4 Noble Truths. In short, to classified in the Form and the Norm. To practice vipassanā is the practice to know the Form and the Norm of Three Characteristics.

               The disease means the abnormal state of the body or the mind, which cause the sickness to arise. In Buddhism, disease come from Kamma, Mind, Temperature, Food. Some diseases which come from Kamma can be slowly affected by making the merit by almsgiving precept observing, and vipassanā practice. Lord Buddha said that the disease is of two kinds. The bodily disease can be cured by curing according to state of disease. The mental disease means the disease that cause the mind to be of mental heat which can cured by alms, precepts, and meditation.

               From the study of Vipassanā Bhavanā in the form of Samathayānika up to the arising of the Jhāna organization is Vitakka, Vicāra, Pīti, Sukha, Ekakkhatā. When Jhāna has arisen with the power of the concentration can stop the pain arising bodily as in the case of venerable Sārīputta and the noble monks in the moments of their practising the Jhāna. All the dangers could not hurt them.

รายการไฟล์