บทคัดย่อภาษาไทย

          การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับพฤติกรรมและการรู้คิดเกี่ยวกับสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธของผู้ป่วยคลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลราชวิถี 2) ศึกษาความแตกต่างในระดับสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธของผู้ป่วยคลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลราชวิถี จาแนกตามข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับสุขภาวะองค์รวมด้านต่างๆ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน คลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลราชวิถี จานวน 252 คน เครื่องมือสาหรับเก็บข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ทดสอบค่าที, One-Way ANOVA และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
             ผลการวิจัย
            1) ข้อมูลทั่วไป
พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (61.9%) อายุสูงกว่า 60 ปี (42.1%) น้าหนัก 61-70 กิโลกรัม (36.1%) สูง 151-160 เซนติเมตร (58.7%) สมรส (77.0%) อาชีพธุรกิจ (43.7%) การศึกษามัธยม / ต่ากว่า (77.0%) รายได้ 5,001- 15,000 บาท (49.2%)
            ระดับสภาวะการเป็นโรคเบาหวาน พบว่า ส่วนใหญ่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน 5-10 ปี( 36.5%) เริ่มรับการรักษาตั้งแต่พบว่าเป็นโรคเบาหวาน (97.2%) ระยะเวลาที่แพทย์นัดมาตรวจ2 เดือน (40.9%) ไม่เคยนอนพักรักษาโรคเบาหวานในโรงพยาบาล(71.8%) ควบคุมระดับน้าตาลโดยยาแพทย์แผนปัจจุบัน (64.3%) มีอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน (๗๘.๖%) เป็นอาการขั้นไม่รุนแรง (78.6%)
2) ระดับสภาวะสุขภาวะ
             พบว่า โดยรวมกลุ่มตัวอย่างรับรู้สภาวะองค์รวมแนวพุทธโดยรวมทุกด้านและในแต่ละด้านในระดับมาก ( x̄= 3.60) ซึ่งสามารถจัดลาดับการรับรู้จากมากไปหาน้อย คือ ด้านกาย ด้านจิตใจด้านปัญญา และด้านสังคมตามลาดับ (x̄=3.68,3.67, 3.52 และ 3.51)
               3) ความแตกต่างในระดับสุขภาวะองค์รวม
               พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างในเรื่อง เพศ อายุ อาชีพ การศึกษา รายได้ มี/ไม่มีโรคแทรกซ้อน เคยนอนพักรักษาที่โรงพยาบาล ระยะเวลาที่แพทย์นัด วิธีควบคุมระดับน้าตาลในเลือดทางการแพทย์ ควบคุมระดับน้าตาลด้วยวิธีอื่น มีความแตกต่างในระดับการรับรู้สุขภาวะองค์รวมแนวพุทธโดยทุกด้าน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่มีความแตกต่างในเรื่อง น้าหนัก ส่วนสูง สถานภาพสมรส ระยะเวลาที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานเคย/ไม่เคยนอนพักรักษาที่โรงพยาบาล และระดับของอาการแทรกซ้อน ไม่มีความแตกต่างในระดับการรับรู้สภาวะองค์รวม
             4) ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาวะด้านต่างๆ
            พบว่า สุขภาวะองค์รวมด้านกายและด้านสังคม ด้านกายและโดยรวมทุกด้าน ด้านสังคมและด้านจิตใจ ด้านสังคมและด้านปัญญา(รู้คิด) ด้านสังคมและโดยรวมทุกด้าน ด้านจิตใจและด้านปัญญา(รู้คิด) ด้านจิตใจและโดยรวมทุกด้าน ด้านปัญญา(รู้คิด)และโดยรวมทุกด้าน มีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ด้านกายและด้านจิตใจ มี
ความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านกายและด้านปัญญา(รู้คิด) ไม่มีความสัมพันธ์

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

               The objectives of this research were : 1) to study the level of behavior and cognitive Buddhist holistic health of clinical diabetes patients at Rajavithi Hosp ital, 2) to study the differences of the level of Buddhist holistic health sparating by general informations. The sample consisted of 252 clinical diabetes patients at Rajavithi hospital. and 3) to study the relationship of behavior and cognitive in each a bout the perception of Buddhist holistic health. Research instruments were questionars.Statistics used for data analysis consisted of percentage,mean ( X ), standard deviation(S.D.) and testing hypothesis using t-test, One-way ANOVA and Pearsons Product Moment correlation.
             The Results are as follows.
             1) General Information
           It found that the samples mostly are female (61.9%), age more than 60 (42.1%), weight 61-70 kilograms (36.1%), height 151-160 centimeters (58.7%) married (77.0%), doing Business (43.3%), high school and bellow (73.0%). and income Bath 5,001-15,000 per month (49.2%)
              It found that the samples mostly are diabetes diagnosis 5-10 years (36.5%),begin take the preservation since , be the diabetes (97.2%), duration of recheck 2 months (40.9%), non stay at hospital for diabetes diagnosis (71.9%), control water palmyra level by doctor modern medicine (64.3%), there is the symptoms has complications from the diabetes (79.6%) and symptoms doesn't be severe (78.6%)
               2) The Level of Holistic Health Perception:
              It found that the samples perceived behavior and cognitive of Buddhist holistic health of all aspects in total at the high level ( x̄ = 3.60), in each aspects at the high levels which can be listed form the highest to lowest such as physical,psychological cognitive and social aspects espectively (x̄=3.68, 3.67, 3.52 and 3.51).
               3) The Differences of Holistic Health Perception:
               It found that the samples with the differences in sex, ages, occupations,educations, incomes, intervening diseases, got the significant differences in behavior and cognitive of Buddhist holistic health at 0.01 level. Whereas the sample with the differences in weight, height, marital status, duration of clinical diabetes, stay / non -stay for treating at hospital, the level of intervening diseases got no differences in the level of behavior and cognitive of Buddhist holistic health.
               4) The Relationship between Aspects of Buddhist Holistic Health
              It found the relationship between behavior and cognitive of the Buddhist Holistic Health of each aspects such as physical and social, social and psychological,social and all aspects, psychological and cognitive and psychological and all aspects at the 0.01 level, and physical and psychological aspects at 0.05 level. Whereas there are no relationship between physical and psychological aspects.

รายการไฟล์